ผู้เขียน หัวข้อ: พุทธศาสนสุภาษิต - วาจา  (อ่าน 4096 ครั้ง)

เสรี ลพยิ้ม

  • รักธรรม
  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
    • ดูรายละเอียด
พุทธศาสนสุภาษิต - วาจา
« เมื่อ: มกราคม 25, 2012, 08:04:52 am »
พุทธศาสนสุภาษิต - วาจา
หมวด 4 หมวดวาจา


1 คนมีปัญญา แม้มีปัญหา และถูกผูกมัดอยู่ พอพูดในเรื่องใดก็หลุดได้ในเรื่องนั้น
2 วาจาเช่นเดียวกับใจ
3 ไม่ควรเปล่งวาจาที่ชั่วเลย
4 คนพาลที่ยังไม่ถูกผูกมัด แต่พอพูดในเรื่องใด ก็ถูกผูกมัดในเรื่องนั้น
5 คนกล่าววาจาชั่วย่อมเดือดร้อน

6 ควรกล่าวแต่วาจาที่น่าพอใจ
7 คนโกรธมีวาจาหยาบ
8 คำสัตย์แลเป็นวาจาที่ไม่ตาย
9 คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก
10 ควรเปล่งวาจางาม

11 ควรเปล่งวาจาไพเราะ ที่มีประโยชน์
12 พูดดี เป็นมงคลอย่างสูงสุด
13 พูดอย่างใด ควรทำอย่างนั้น
14 ควรกล่าวแต่วาจาที่ไม่ยังตนให้เดือดร้อน
15 ในกาลไหนๆ ก็ไม่ควรกล่าววาจาไม่น่าพอใจ

16 เปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ
17 ระมัดระวังวาจา เป็นความดี
18 ความบริสุทธิ์พึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ
19 วาจาสุภาษิต ย่อมมีผลแก่ผู้ปฎิบัติ เหมือนดังดอกไม้งาม ที่มีทั้งสีสวย และกลิ่นอันหอม
20 คนเกิดมาชื่อว่ามีขวานเกิดติดปากมาด้วย สำหรับให้คนพาลใช้ฟันตนเอง ในเวลาพูดคำชั่ว

21 ไม่ควรพูดจนเกินกาล ไม่ควรนิ่งเสมอไป ควรกล่าววาจาที่ไม่ฟั่นเฝือ ควรกล่าวให้พอดีๆ เมื่อถึงเวลา
22 คนใดเมื่อถูกอ้างเป็นพยาน เบิกความเท็จ เพราะตนก็ด ีเพราะผู้อื่นก็ดี เพราะทรัพย์ก็ดี พึงรู้ว่าผู้นั้นเป็นคนเลว
23 พึงเปล่งวาจางามเท่านั้น ไม่พึงเปล่งวาจาชั่วเลย การเปล่งวาจางามยังประโยชน์ให้สำเร็จ คนเปล่งวาจาชั่วย่อมเดือดร้อน
24 คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย นั่นเป็นธรรมเก่า สัตบุรุษ ทั้งหลายเป็นผู้ตั้งมั่นในคำสัตย์ที่เป็นอรรถ และเป็นธรรม
25 ไม่ควรพูดจนเกินกาล ไม่ควรนิ่งเสมอไป เมื่อถึงเวลาควรพูดพอประมาณ ไม่ฟั่นเฝือ

26 คนเขลา เมื่อกล่าวในเรื่องใดไม่ถูกผูก ก็ติดในเรื่องนั่น คนฉลาด เมื่อกล่าวในเรื่องใด แม้ถูกผูก ก็หลุดในเรื่องนั่น
27 ผู้ใดไม่โกรธ ไม่สะดุ้ง ไม่โอ้อวด ไม่รำคาญ พูดด้วยปัญญา ไม่ฟุ้งซ่าน ผู้นั้นแลชื่อว่าเป็นมุนี มีวาจาสำรวมแล้ว
28 ควรกล่าววาจาที่น่ารักอันผู้ฟังยินดีเท่านั้น เพราะคนดีไม่นำพาคำชั่วของผู้อื่น คนดีจะกล่าวแต่คำไพเราะ
29 บุคคลพึงกล่าววาจา ที่ไม่เป็นเหตุยังตนให้เดือดร้อน และไม่เป็นเหตุเบียดเบียนผู้อื่น วาจานั้นแล เป็นสุภาษิต
30 ถ้ามีวาจาที่ประกอบด้วยข้อความแม้ตั้งพัน ซึ่งไม่เป็นประโยชน์แล้ว ข้อความที่เป็นประโยชน์เพียงบทเดียว ที่ฟังแล้วสงบระงับได้ ย่อมประเสริฐกว่า

31 จะทำสิ่งใดพึงพูดสิ่งนั้น สิ่งใดไม่ทำไม่พึงพูดถึง บัณฑิตย่อมจะหมายเอาได้ว่า คนไม่ทำดีแต่พูด
32 บุคคลทำสิ่งใดควรพูดสิ่งนั้น ไม่ทำสิ่งใดไม่ควรพูดสิ่งนั้น บัณฑิตย่อมกำหนดรู้คนที่ไม่ทำ ได้แต่พูด
33 พระพุทธเจ้าตรัสพระวาจาใด ย่อมเป็นคำปลอดภัย เพื่อบรรลุพระนิพพาน และเพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ พระวาจานั้นแล  เป็นสูงสุดแห่งวาจาทั้งหลาย
34 ผู้ใดสรรเสริญคนควรติ หรือติคนที่ควรสรรเสริญ ผู้นั้นย่อมเก็บโทษของตนไว้ด้วยปาก เขาไม่ได้สุขเพราะโทษแห่งปากนั้น
35 ผู้มีภูมิปัญญาย่อมไม่พูดพล่อยๆ เพราะเหตุแห่งคนอื่นหรือตนเอง ผู้นั้นย่อมมีผู้บูชา ในท่ามกลางชุมชน  ภายหลังเขาย่อมไปสู่สุคติ
36 ผู้ใด พึงกล่าวถ้อยคำอันไม่เป็นเหตุให้ใครๆ ขัดใจ ไม่หยาบคาย เป็นเครื่องให้รู้ความได้และเป็นคำจริง  เราเรียกผู้นั้นว่าเป็นพราหมณ์


พุทธศาสนสุภาษิต - วาจา
หมวด 4 หมวดวาจา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 27, 2012, 08:22:55 pm โดย นายเสรี ลพยิ้ม »