« ตอบ #41 เมื่อ: มีนาคม 07, 2015, 09:18:24 am »
การเดินเพื่อสุขภาพดี (ตอน1)
การเดินเป็นการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่งที่ทำได้ง่ายในทุกเพศ ทุกวัย แม้ในวัยสูงอายุ นอกจากการเดินจะให้ความปลอดภัยสูงแล้ว ยังสามารถทำได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือรอบๆ บริเวณบ้าน ในสวนสาธารณะเนื่องจากเป็นบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ ทำให้รู้สึกสดชื่น เกิดความรู้สึกผ่อนคลายจากสีเขียวของต้นไม้ตามธรรมชาติ เป็นการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่จำเจ
การเดินเพื่อสุขภาพดี (ตอน2)
การเดินที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ต้องเป็นการเดินที่ต่อเนื่องกันนานประมาณ 20 – 30 นาทีขึ้นไป โดยความถี่ของการออกกำลังกายนั้นคือ 3 – 5 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นอย่างน้อยและสม่ำเสมอ จะช่วยให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น
การเดินเพื่อสุขภาพดี (ตอน3)
เทคนิควิธีการเดินที่ถูกต้อง คือ ควรเดินเร็ว ๆ ก้าวเท้าถี่ ๆ และแกว่งแขนไปด้วย เป็นการกระตุ้นร่างกาย โดยเฉพาะระบบหัวใจและหลอดเลือด ให้ทำงานเพิ่มมากขึ้นกว่าภาวะปกติในชีวิตประจำวัน เป็นเสมือนการฝึกให้หัวใจทำงานเพิ่มขึ้น
การเดินเพื่อสุขภาพดี (ตอน4)
นอกจากความรู้สึกเหนื่อยแล้ว ความต่อเนื่องของการเดิน ต้องไม่ใช่เดินๆ หยุดๆ ในผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก อาจแบ่งเดินเป็น 2 ช่วงเวลา ช่วงละประมาณ 10 – 15 นาทีก็ได้เช่นกัน
และในผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ควรเริ่มจากน้อยๆ เช่น เดิน 5 นาที และค่อยๆ เพิ่มเวลาให้มากขึ้น ค่อยเป็นค่อยไป ไม่หักโหม เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียได้ ถ้าร่างกายไม่พร้อมออกกำลังกาย
การเดินเพื่อสุขภาพดี (ตอน5)
เทคนิคการเดินเพื่อสุขภาพที่ดีนั้น อย่าลืมอบอุ่นร่างกายก่อน โดยการยืดเส้นยืดสาย เพื่อให้ร่างกายรับรู้ถึงการเตรียมพร้อมของการทำงานของระบบต่างๆที่จะเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการบาดเจ็บของระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อ เช่น การเกิดข้อเท้าแพลง เอ็นอักเสบ กล้ามเนื้อยอก หรือปวดข้อ เป็นต้น
การเดินเพื่อสุขภาพดี (ตอน6)
ก่อนหยุดเดิน ควรมีระยะผ่อนคลาย คือเดินช้าลง ๆ หรือจะใช้การยืดเส้นยืดสายอีกครั้งเพื่อช่วยให้ระบบต่าง ๆ ลดการทำงานลง เพื่อกลับคืนสู่สภาวะปกตินั่นเอง ระยะผ่อนคลายมีความสำคัญมากโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ที่มักมีปัญหาการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด
การเดินเพื่อสุขภาพ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ผู้ป่วยเบาหวานที่มีการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินลดลงนั้น พบว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้อินซูลินทำงานดีขึ้น ร่างกายสามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้ดีขึ้น และหมายถึงสามารถควบคุมเบาหวานได้ดีขึ้นนั่นเอง
ขอบคุณที่มา : รศ.พญ.วิไล คุปต์นิรัติศัยกุล ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
Feckbook สสส. Thai Health Promotion Foundation
https://www.facebook.com/thaihealth?fref=ts
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2015, 11:32:04 am โดย ยาใจ »
เข้าสู่ระบบ