ผู้เขียน หัวข้อ: หลักการสอนของพระพุทธเจ้า ในพระพุทธศาสนา  (อ่าน 3158 ครั้ง)

เสรี ลพยิ้ม

  • รักธรรม
  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
    • ดูรายละเอียด
หลักการสอนของพระพุทธเจ้า ในพระพุทธศาสนา
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร


พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมสั่งสอนด้วยอาการ ๓ อย่าง คือ

๑.สั่งสอนเพื่อให้รู้ หมายถึงเข้าใจด้วย

พระบาลีแสดงข้อนี้ว่า

อิญฺญาย โข โส ภควา ธมฺมํ เทเสติ, โน อนภิญฺญาย

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมเพื่อรู้ ไม่ทรงแสดงธรรมเพื่อไม่รู้

๒.พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมมีเหตุ

ซึ่งหมายความว่ามีเหตุมีผล ไม่ใช่แสดงส่งๆไป ไม่มีเหตุผล
ได้ในภาษาบาลีว่า

สนิทานํ ธมฺมํ เทเสติ, โน อนิทานํ

ทรงแสดงธรรมมี นิทาน ซึ่งแปลว่า เหตุ
หมายความว่า เหตุที่จะให้ผล ไม่ทรงแสดงธรรมไร้เหตุ

ศัพท์ว่า นิทาน นี้
เราเอามาพูดกันหมายถึงเรื่องต่างๆ แต่ก็นับว่าเป็นเหตุ,
เพราะว่าเมื่อแสดงนิทานหรือเรื่องต่างๆไปแล้ว ผู้ฟังรู้เรื่อง
ก็เข้าใจถึงผลที่มีเพราะเหตุว่าเป็นอย่างไร

คนไม่เข้าใจก็ไปหมายเอานิทานว่าเรื่อง,
ที่จริงก็ถูก เพราะเรื่องนั่นแหละเป็นเหตุที่ให้ผล
เพราะเมื่อคนฟังนิทานเป็นเหตุแล้ว
รู้ความเข้าใจความเป็นผล นี้อีกข้อหนึ่ง

๓.เมื่อทรงแสดงธรรมเพื่อรู้ เพื่อเข้าใจ และมีเหตุผล เช่นนี้แล้ว
ผู้ฟังปฏิบัติตาม ย่อมประสพผลด้วยตนเอง
ไม่ต้องรอใครมาหยิบยื่นให้

ได้ในภาษาบาลีว่า

สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสติ, โน อปฺปากิหาริยํ

ทรงแสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ ไม่ทรงแสดงธรรมไร้ปาฏิหาริย์
เพราะปฏิบัติเหตุและได้ผลในชาตินี้เอง ไม่ต้องรอไปถึงชาติหน้า

เช่น การเว้นจากฆ่ากันและกันเป็นเหตุ
ก็ให้ผลเป็นคนที่มีใจเมตตากรุณา
เป็นที่ไว้ใจของผู้อื่นว่าจะไม่ฆ่า เช่นนี้เป็นต้น

พระพุทธศาสนาทรงแสดงธรรม ด้วยอาการ ๓ อย่างนี้

ตรงกันข้ามกับบางศาสนาที่เป็นแต่สอนให้เชื่อเท่านั้น
ไม่ต้องการให้รู้ให้เข้าใจ เป็นแต่เอาตามคำสั่งสอนก็แล้วกัน
และยังเรียกผู้ที่ไม่ปลงใจเชื่อว่า
เป็นผู้เชื่อน้อย หรือมีความเชื่อน้อยก็มี

เพราะพระพุทธเจ้าสอนให้รู้
ไม่ใช่สอนให้ไม่รู้ จนถึงเข้าใจมีเหตุมีผล
เมื่อบุคคลมาปฏิบัติเอง ก็ได้ประสพผลในปัจจุบันนี้
ไม่ต้องไปรอถึงชาติหน้า ทั้งส่วนดี ทั้งส่วนชั่ว


ที่มา : “หลักการสอนของพระพุทธเจ้า” ใน พระพุทธศาสนา
พระนิพนธ์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์

โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย  ๒๕๔๑, หน้า ๒๔-๒๕