« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 28, 2022, 08:47:54 am »
❁ ขั้นที่ ๒ ❁
อยู่กับปรมัตถ์เฉพาะที่และทั่วๆ
ทีนี้เมื่อเราจะเลื่อนชั้นขึ้นไปขั้นที่ ๒
ก็ฝึกจนรู้สึกจิตมันอยู่กับเนื้อกับตัวดี
ก็เลื่อนชั้นเป็นขั้นที่สองก็คือ
การกำหนดปรมัตถ์เฉพาะที่ เจาะจง
❁ เริ่มสังเกตความรู้สึก
จากการที่เราหายใจเข้า – ออก
แล้วก็เริ่มสังเกตความรู้สึกว่า
ที่หายใจ เข้า - ออก
มีความรู้สึกอยู่ มีความไหว
มีความกระเพื่อม
มีความรู้สึกสบาย รู้สึกไม่สบาย
ตึงๆ หย่อนๆ ไหวๆ กระเพื่อม
ที่ทรวงอก ที่หน้าท้อง หรือที่โพรงจมูก
มีความรู้สึก หน้าอกมีความรู้สึกกระเพื่อม
ท้องมีความรู้สึก การรู้ที่ความรู้สึกกระเพื่อม
หรือสะเทือน หรือไหวๆ หรือตึง หย่อน
เย็น ร้อน หรือสบาย ไม่สบาย
❁ เท่ากับเป็นการรู้สภาวะ หรือรู้ปรมัตถธรรม
แต่ว่าดูเฉพาะแคบๆ เฉพาะบริเวณตรงจมูก
ทรวงอก หน้าท้อง เพื่อให้มันง่ายก่อน
น่าจะดูคู่ๆ กัน ระหว่างลมหายใจเข้า – ออก
กับความรู้สึก เรียกว่ายังไม่ทิ้งบัญญัติ
ดูลมเข้า ลมออก ไปดูความรู้สึก ดูลมเข้า
ดูความรู้สึก เริ่มมารู้จักสภาวะ
ความรู้สึกว่าเป็นสภาวะ
ความตึง ความหย่อน
ความเย็นร้อนอ่อนแข็ง
ความรู้สึกสบายไม่สบาย
❁ ทีนี้เมื่อเราคุ้นเคย
กับความรู้สึกและดูความรู้สึกเป็น
ต่อไปเราก็เลื่อนขึ้นมาขั้นที่ ๓
ดูคือกำหนดให้มันทั่วๆ ตัว ดูปรมัตถ์ทั่วไป
เลื่อนมาดูส่วนอื่นของกายบ้าง
ว่ามีความรู้สึกอยู่ทั่วๆ ตัว
แม้แต่ตามผิวหนังมีลมมากระทบรู้สึกเย็น
รู้สึกสบาย หรือว่าส่วนก้น ขากระทบพื้นรู้สึกแข็ง
รู้สึกตึง รู้สึกเมื่อย ในส่วนบนที่ศีรษะก็มีความรู้สึก
ในสมองก็มีความรู้สึก ที่หน้า ที่ตา ที่ปาก ที่คอ
ที่มือ ที่เท้า ทรวงอก ลำตัว
ทุกส่วนและมีความรู้สึก
ความเย็นบ้าง ร้อนบ้าง ตึงบ้าง หย่อนบ้าง
ไหวบ้าง สบายบ้าง ไม่สบายบ้าง
เป็นตัวปรมัตถธรรม และเป็นสภาวธรรม
ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะต้องกำหนดเข้ามาถึงสภาวะ
เพื่อจะได้ความจริงว่าสิ่งเหล่านี้มันเปลี่ยนแปลง
เกิด ดับ บังคับไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตน
พระภาวนาเขมคุณ วิ.
(พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 28, 2022, 09:11:04 am โดย ยาใจ »
เข้าสู่ระบบ